เมื่อกล่าวถึง Motorola Aura แล้ว ย้อนกลับไปในปี คศ. 2002 โมโตโรล่าเคยสร้างความประทับใจมาแล้วกับโทรศัพท์มือถือ Motorola V70ที่ออกแบบมาในรูปทรงฝาสวิง หรือการเปิดออกทางด้านข้าง และต่อมาในปี คศ. 2008 โมโตโรล่าก็ได้เปิดตัว Motorola Aura ซึ่งอดไม่ได้ที่จะคิดถึงรุ่น V70 แต่สำหรับ Aura นั้นได้ถูกพัฒนาขึ้นมามากเลยที่เดียวทั้งในความพิถีพิถันในการผลิต วัสดุที่ใช้และยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบกลไกที่ใช้เป็นระบบหมุนฝาสวิง โดยการใช้ระบบฟันเพืองที่ทำจากเหล็กกล้า ช่วยในการเปิด/ปิดฝาสวิง ในระบบกึ่งอัตโนมัติ ออกแรกดันเพียงเล็กน้อย ฝาสวิงก็จะเปิดขึ้นอัตโนมัติ สามารถเปิดออกจากทางด้านซ้าย หรือขวาก็ได้ โดยแต่ละด้านจะกางออก 180 องศา
นอกจากความประณีตในการออกแบบแล้ว วัสดุที่ใช้ก็มีความแข็งแรงทนทานด้วย Stainless Steel เพิ่มความสวยงามด้วยลาดกราฟฟิค และ ยังช่วยให้จับโทรศัพท์ได้ถนัด ไม่ลื่นมือจนเกินไปด้านหน้าสะดุดตาตรงจอแสดงผลแบบวงกลม ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 เซนติเมตร
ส่วนล่างใต้โลโก้โมโตโรล่า (M) เป็นตำแหน่งของ ลำโพงเสียงสนทนา เมื่อใช้สนทนาตำแหน่งของลำโพงเสียง จะขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับหูของผู้ใช้พอดี
ส่วนโลโก้โมโตโรล่า (M) นั้นมีไฟล้อมรอบ สีเขียว จะแสดงขึ้นเมื่อเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่จอแสดงผล TFT-LCD 16.7 ล้านสี ความละเอียด 480 พิกเซล
ในโหมดพร้อมใช้งาน (ปิดฝาสวิง) จะแสดงนาฬิกาปรับเปลี่ยนได้หลายแบบ ขอบบนแสดงระดับสัญญาณโทรศัพท์กับระดับพโหมดพร้อมใช้งาน เมื่อเปิดฝาสวิงขึ้นจะแสดงรูปภาพพื้นหลังปรับเปลี่ยนได้ในการตั้งค่า ขอบบนแสดงระดับ สัญญาณโทรศัพท์, สัญลักษณ์เครือข่าย EDGE / GPRS, สัญลักษณ์การใช้งาน Bluetooth, รูปแบบเสียงเรียกเข้า, สัญลักษณ์การแจ้งเตือน (ถ้ามีสายที่ไม่ได้รับ / ข้อความเข้า) และ แสดงระดับพลังงานแบตเตอรี่ ส่วนเมื่อมีสายที่ไม่ได้รับหรือข้อความเข้าก็จะแจ้งเตือนด้วย หากไม่มีการใช้งานใดๆ จะแสดงภาพพักหน้าจอปรับเปลี่ยนได้ในการตั้งค่ากลางหน้าจอจะแสดงชื่อเครือข่าย กับ รูปไอคอนของปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง
ฝาสวิงจะใช้ระบบกึ่งอัตโนมัติ เวลาจับตัวเครื่องด้วยมือขวาให้ใช้นิ้วโป้งแตะบริเวณโลโก้ M แล้วออกแรงดันฝาสวิงไปทางซ้ายมือเล็กน้อย ตัวฝาก็จะเปิดออกโดยอัตโนมัติ โดยจะกางออก 180 องศาด้านหลังถูกออกแบบให้แสดงการทำงานของกลไกฟันเฟือง โดยทำกรอบตัวเครื่องให้โปร่งใส เห็นการทำงานของ กลไกชัดเจน เมื่อหมุนฝาสวิงขึ้น/ลง ฟันเฟืองก็จะหมุนตาม และใกล้กันก็ยังติดเลนส์กล้องดิจิตอลไว้ด้วยรูปแบบการแสดงผลของเมนูจัดอยู่ในรูปแบบของธีม เปิดเมนูหลักขึ้นมาด้วยปุ่ม OK ในเมนูหลักแสดงผลด้วรูปภาพไอคอน วางเรียงเป็นวงกลมตามขอบของจอแสดงผล โดยเมนูที่ถูกเลื่อนดูจะแสดงรูปไอคอนขนาดใหญ่กลางหน้าจอ ใช้ปุ่มควบคุมทิศทางซ้าย/ขวาในเลือกเลื่อนดูแต่ละเมนู และใช้ปุ่ม OK เพื่อเปิดเมนู
คุณสมบัติในการถ่ายภาพนิ่ง
- ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ 5, 10 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 4, 6, 8 ภาพ
- ความละเอียด 320 x 240, 640 x 480, 1280 x 960, 1600 x 1200 พิกเซล
- ซูมภาพได้สูงสุด 4 เท่า
- เสียงกดชัตเตอร์ มีให้เลือก 6 เสียง และ ปิดเสียงได้
- ปรับคุณภาพได้ 3 ระดับ
- โทนสี : Color, Black & White, Antique, Negative, Reddish, Greenish, Bluish
- โหมดถ่ายภาพในเวลากลางคืน
คุณสมบัติในการบันทึกวีดีโอ
- ความละเอียด 128 x 96, 176 x 144 พิกเซล
- โหมดับนทึกวีดีโอเพื่อส่งข้อความ MMS
- ซูมภาพได้สูงสุด 4 เท่า
- บันทึกวีดีโอนานสูงสุด 2 ชั่วโมง
- โหมดบันทึกวีดีโอในเวลากลางคืน
- โทนสี : Color, Black & White, Antique, Negative, Reddish, Greenish, Bluish
ซึ่งจากการทดสอบแล้ว ผมให้คะแนนของการออกแบบถึง 10 คะแนนเต็มเลย เพราะการออกแบบนั้นถือว่าสวยงามเลยทีเดียวและยังใช้วัสดุชั้นดีมาประกอบ ซึ่งต่างกับ Motorola V70 ที่ใช้วัสดุในการประกอบนั้นอาจจะด้อยกว่า ส่วนในเรื่องของการทำงานของ Aura นั้นอยู่ในระดับปานกลาง ผมให้ที่ 6 คะแนน เพราะการใช้งานนั้นก็จะไม่แตกต่างจาก Nokia ตระกูล 8800 กันซักเท่าไหร่............
เนื่องจากโทรศัพท์ในตระกูล Nokia 8 series และ Motorola Aura นั้นเป็นโทรศัพท์ระดับ Hi-Class เหมาะสำหรับนักธุรกิจ เจ้าของกิจการหรือ ผู้ที่ชอบสะสม ดังนั้นจึงเหมาะในการใช้โทรเข้า-ออก และโชว์รูปร่างของโทรศัพท์มือถือที่เน้นในการออกแบบที่สวยหรูให้กับผู้คนที่พบเห็น และบ่งบอกรสนิยมของความเป็นตัวคุณอย่างดีเยี่ยม....
สุดท้ายผมจะให้คะแนนรวมของ Motorola Aura อยู่ที่ 7 คะแนนจาก 10 คะแนนเต็ม
T.D. ^_^